ในปัจจุบันทุกอาคารที่เราใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานศึกษา โรงพยาบาลหรือสถานที่สำนักงานต่าง ๆ ต้องได้รับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้เสมอ เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าวจนทุกคนไม่สามารถทำแต่ละกิจกรรมได้อย่างสะดวกสบาย เพราะจะรู้สึกร้อน ไม่สบายตัว และอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดได้ ความสามารถในการทำงานต่าง ๆ ก็จะลดลง ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นในปัจจุบันแอร์จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อผู้ใช้อาคารทุกคน นอกจากทำให้รู้สึกสะดวกสบายแล้ว เรื่องสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแอร์จะช่วยกรองอากาศที่อยู่ภายในตัวอาคารหรือห้องที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในนั้นให้สะอาดขึ้น ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ การมีเครื่องปรับอากาศจึงช่วยในการดูแลสุขภาพทางเดินหายใจของมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม และยังช่วยป้องกันผู้ใช้อาคารให้ปลอดภัยจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากมลภาวะทางอากาศที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งแอร์จะทำประโยชน์ที่กล่าวถึงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต้องมาจากการใช้งานแอร์อย่างถูกต้องถูกวิธีและมีการบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เสมอ หนึ่งในขั้นตอนการดูแลรักษาที่เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานแต่สำคัญที่สุดก็คือ การล้างแอร์
การล้างแอร์ถือว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดูแลรักษาแอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตรงตามที่เราต้องการ เช่น คุณคงเคยรู้สึกว่าปรับแอร์ไปแล้ว แต่ทำไมอากาศก็ยังร้อน อุณหภูมิจริงภายในห้องไม่ตรงกับอุณหภูมิที่ปรับจากตัวเครื่อง คำตอบเริ่มต้นในการแก้ปัญหานี้ก็คือการล้างแอร์นั่นเอง เพราะเป็นการล้างฝุ่นออกจากตัวอุปกรณ์ ป้องกันการอุดตันของฝุ่นภายในตัวเครื่อง เครื่องจึงทำงานได้อย่างเต็มกำลัง พัดลมแอร์ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้แอร์มีอุณหภูมิเย็นตามที่เราต้องการ ซึ่งนอกจากฝุ่นที่จะถูกชะล้างออกไปจากเครื่องปรับอากาศแล้ว เชื้อโรคหลายประเภทที่สะสมอยู่ในแอร์ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย รา เป็นต้น เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะถูกทำความสะอาดออกไปจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกับฝุ่นนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงช่วยลดสาเหตุของโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม หรือโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพทางเดินอากาศโดยตรง เช่น โรคภูมิแพ้ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก การล้างแอร์จึงช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่าเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่จัดการอากาศที่เราหายใจเข้าไปในร่างกายและจะไม่สร้างผลเสียที่กระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
นอกจากจะต้องคำนึงถึงคุณภาพในการใช้งานแล้ว ผู้ใช้ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน หากขณะใช้แอร์ภายในอาคารแล้วเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของอัคคีภัยได้ คุณอาจจะคิดว่าเรื่องนี้มาเกี่ยวกับการล้างแอร์ได้อย่างไร ในความเป็นจริงแล้วสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกันมากกว่าที่เราคิด เพราะการล้างแอร์จะช่วยทำความสะอาดฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดการอุดตันภายในของอุปกรณ์ซึ่งเป็นสาเหตุให้อุปกรณ์ภายในเครื่องปรับอากาศทำงานอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพดังที่กล่าวไปแล้ว แต่ที่ส่งผลมากกว่านั้นคืออาจทำให้อุปกรณ์ทำงานผิดพลาด ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่ายขึ้นและอาจนำไปสู่การเกิดไฟไหม้ในตัวอาคารได้นั่นเอง
นอกจากผลดีโดยตรงที่ช่วยทำความสะอาดชะล้างเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในตัวเครื่องและลดความเสี่ยงด้านอัคคีภัยแล้ว ผลพลอยได้อีกอย่างก็คือช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและพลังงาน เริ่มต้นที่การประหยัดพลังงานก่อน ถ้าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสกปรก ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็จะต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการควบคุมอุปกรณ์ให้ทำงานให้ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิม ดังนั้นการปล่อยให้อุปกรณ์ทำงานอย่างไม่เต็มที่จะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์นั่นเอง ในทางกลับกันถ้าเราดูแลรักษาทุกอุปกรณ์ในแอร์ให้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพก็จะใช้พลังงานน้อยลง ประเด็นต่อมาก็คือการประหยัดค่าใช้จ่ายซึ่งสอดคล้องไปกับพลังงานที่เราใช้ก็คือช่วยให้เราประหยัดค่าไฟนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นการที่เราดูแลรักษาอุปกรณ์ภายในแอร์ให้ดีจะทำให้เราประหยัดค่าบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศได้อีกส่วนหนึ่ง
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าการล้างแอร์ทำให้เกิดผลดีต่อทั้งตัวอุปกรณ์ในด้านการยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยที่เกิดจากการทำงานที่ผิดลาดของเครื่องปรับอากาศ รวมถึงช่วยปกป้องดูแลสุขภาพของผู้ใช้ทุกคนด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยประหยัดเงินและพลังงานอีกด้วย แอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ประจำบ้านที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนมากกว่าที่ทุกคนคิดเพราะการทำงานของเครื่องปรับอากาศส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพทางเดินอากาศของทุกคนในครอบครัว ดังนั้นผู้ใช้งานทุกคนจึงควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับการดูแลทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศด้วยการล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ โดยปกติการล้างแอร์นั้นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศแนะนำให้ทำทุก 6 เดือน แต่ถ้าหากมีการใช้งานที่มากขึ้นกว่าปกติ เช่น เปิดใช้เครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องและเปิดใช้งานเป็นเวลานาน หรือมีการติดตั้งแอร์ในพื้นที่ที่การหมุนเวียนอากาศไม่ค่อยดีหรือมีฝุ่นละอองเยอะ ก็จะต้องมีการล้างแอร์ให้บ่อยขึ้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้การล้างแอร์เมื่อครบกำหนดจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกคนควรทำเป็นประจำก็จะทำให้แอร์ที่เราใช้สามารถทำงานตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง